ศึกษาความเป็นไปได้ของการพัฒนาดังกล่าว ซึ่งสะท้อนให้เห็นเจตนารมณ์ในการส่งเสริมการเจริญเติบโตของภาคอุตสาหกรรมไทย ตลอดจนการอนุรักษ์พลังงานและสิ่งแวดล้อม และการส่งเสริมการใช้พลังงานทดแทนของทั้ง 2 องค์กร สำหรับ การศึกษาความเป็นไปได้ของการพัฒนา Smart City ด้านพลังงาน มีระยะเวลาในการศึกษา 1 ปี นับจากวันลงนามสัญญา โดยมีขอบเขตการศึกษาเฉพาะส่วนที่อยู่ในโครงข่ายการประกอบธุรกิจของ NNEG ทั้งนี้ กฟผ. จะเป็นผู้ดำเนินการศึกษาการพัฒนา Smart City ด้านพลังงาน และมี NNEG เป็นที่ปรึกษาให้การสนับสนุนข้อมูลและการเข้าพื้นที่ อันจะก่อให้เกิดการแลกเปลี่ยนความรู้ ทรัพยากร และบุคลากรด้าน Smart Grid รวมถึงการอนุรักษ์พลังงานและสิ่งแวดล้อมและด้านอื่นๆ เกิดการพัฒนาบุคลากรของทั้งสองฝ่าย และเกิดความร่วมมือในการประชาสัมพันธ์เผยแพร่องค์ความรู้ด้าน Smart Grid และด้านอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง เพื่อประโยชน์สูงสุดในภาพรวมของประเทศต่อไป
Post Views: 903 กฟผ. จับมือ NNEG ศึกษาพัฒนา Smart City ด้านพลังงาน ในเขตส่งเสริมอุตสาหกรรมนวนคร ปทุมธานี รองรับการเติบโตของภาคอุตสาหกรรมไทย นายพัฒนา แสงศรีโรจน์ รองผู้ว่าการยุทธศาสตร์ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ. ) กล่าวภายหลังลงนามในบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) โครงการศึกษาความเป็นไปได้ของการพัฒนาเมืองอัจฉริยะ (Smart City) ด้านพลังงานในเขตส่งเสริมอุตสาหกรรมนวนคร ปทุมธานี ร่วมกับบริษัท ผลิตไฟฟ้า นวนคร จำกัด (NNEG) ว่า ความร่วมมือดังกล่าว กฟผ. จะเป็นผู้ดำเนินการศึกษาแนวทางการบริหารจัดการในรูปแบบระบบโครงข่ายอัจฉริยะ (Smart Grid) ที่เข้าเงื่อนไข Smart City ตลอดจนศึกษางบประมาณการลงทุน รูปแบบการลงทุน รูปแบบทางธุรกิจ และผลตอบแทนการลงทุน เพื่อเตรียมพร้อมรองรับการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียน ซึ่งเข้ามามีบทบาทมากขึ้นจากเทคโนโลยีที่พัฒนาไปอย่างรวดเร็ว อันมีส่วนช่วยผลักดันนวัตกรรมพลังงานไฟฟ้า ตามนโยบาย ENERGY 4. 0 ของรัฐบาล รวมถึงยกระดับการบริหารจัดการพลังงานไฟฟ้าของประเทศให้มีประสิทธิภาพ และส่งเสริมภารกิจการรักษาความมั่นคงของระบบไฟฟ้าในภาพรวมของ กฟผ. ด้านนายธนาธิษณ์ ช้อยแสง กรรมการผู้จัดการ NNEG กล่าวว่า ปัจจุบันการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ของผู้ประกอบการธุรกิจในเขตอุตสาหกรรม นวนคร ปทุมธานี มีปริมาณมากขึ้น และเพื่อให้การผลิตและจำหน่ายไฟฟ้าภายในเขตอุตสาหกรรมของ NNEG มีการบริหารจัดการอย่างมีประสิทธิภาพ จึงได้ร่วมมือกับ กฟผ.
ลาว ได้เพิ่มขึ้น คิดเป็นมูลค่า 5, 000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ขณะเดียวกัน บริษัทได้วางแผนเชิญชวนบริษัทระดับโลก รวมถึงภาครัฐจากประเทศญี่ปุ่น ไทย และจีน เพื่อเข้ามามีส่วนร่วมพัฒนาโครงการ AMATA SMART & ECO CITY โดยผ่านความร่วมมือกับเมืองอุตสาหกรรมโยโกฮามาและเจโทร เพื่อประชาสัมพันธ์โครงการและเชิญชวนนักลงทุนจากประเทศญี่ปุ่นให้เข้ามาในสปป. ลาว และโครงการอมตะในสปป. ลาว อีกด้วย "เรามุ่งเน้นการร่วมมือกับพันธมิตรทุกส่วน โดยเฉพาะจาก 5 ประเทศ อาทิ สปป. ลาว ไทย จีน ญี่ปุ่น และสิงคโปร์ ที่จะพัฒนาโครงการนี้ในส่วนต่างๆ โดยอยู่ระหว่างการหารือแนวทางความร่วมมือเพื่อที่จะทำให้ AMATA SMART & ECO CITY ที่สปป. ลาว ได้มีส่วนการยกระดับการค้าการลงทุนระหว่างไทยและสปป. ลาวให้มากยิ่งขึ้น โดยเงินลงทุนเบื้องต้นเราได้ลงนามความเข้าใจกับสถาบันการเงินต่างๆ ทั้งของไทย สปป. ลาว และประเทศอื่นๆ ที่พร้อมสนับสนุนด้านการเงินแล้ว" วิกรมกล่าว
อบจ.
Sitemap | ลำโพง กลางแจ้ง Jbl มือ สอง, 2024